เมนู

6. ทุติยสุขสูตร


ว่าด้วยเหตุให้เกิดทุกข์และสุข


[66] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ที่นาลันทคาม แคว้นมคธ
ครั้งนั้นแล ปริพาชกชื่อว่าสามัณฑากานิ เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึง
ที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึก
ถือกันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารี-
บุตรว่า ดูก่อนท่านพระสารีบุตร ในธรรมวินัยนี้ อะไรหนอเป็นเหตุให้
เกิดสุข อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์.
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ดูก่อนผู้มีอายุ ในธรรมวินัยนี้ ความ
ไม่ยินดีแลเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ความยินดีเป็นเหตุให้เกิดสุข ดูก่อนผู้มี
อายุ เมื่อมีความยินดี เป็นอันหวังได้ทุกข์นี้ คือ บุคคลผู้มีความไม่
ยินดีแม้เดินอยู่ ก็ไม่ประสบความสุขความสำราญ บุคคลผู้มีความไม่ยินดี
แม้ยืนอยู่ . . . แม้นั่งอยู่ . . . แม้นอนอยู่ . . . แม้อยู่ในบ้าน. . . แม้อยู่ในป่า
. . . แม้อยู่ที่โคนไม้ . . .แม้อยู่ในเรือนว่างเปล่า. . . แม้อยู่ในที่แจ้ง. . . แม้
อยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ก็ย่อมประสบความสุขความสำราญ ดูก่อน
ผู้มีอายุ เมื่อมีความไม่ยินดีก็เป็นอันหวังได้ความทุกข์นี้ ดูก่อนผู้มีอายุ
เมื่อมีความยินดี ก็เป็นอันหวังได้ความสุขนี้ คือ บุคคลผู้มีความยินดีแม้
เดินอยู่ ก็ย่อมประสบความสุขความสำราญ บุคคลผู้มีความยินดีแม้ยืน
อยู่ . . . แม้นั่งอยู่ . . . แม้นอนอยู่ . . . แม้อยู่ในบ้าน. . . แม้อยู่ในป่า. . .
แม้อยู่ที่โคนไม้ . . . แม้อยู่ในเรือนว่างเปล่า. . . แม้อยู่ในที่แจ้ง . . . แม้อยู่
ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ก็ย่อมประสบความสุขความสำราญ ดูก่อนผู้มีอายุ
เมื่อมีความยินดี ก็เป็นอันหวังได้ความสุขนี้.
จบทุติยสุขสูตรที่ 6

อรรถกถาทุติยสุขสูตรที่ 6


ทุติยสุขสูตรที่ 6

สามัณฑกานิปริพาชก ถามท่านพระสารีบุตร
ถึงสุขทุกข์ที่มีศาสนาเป็นมูล.
จบอรรถกถาทุติยสุขสูตรที่ 6

7. ปฐมนฬกปานสูตร


ว่าด้วยผู้ไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมพึงได้ความเสื่อมในกุศลธรรม


[67] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ได้เสด็จถึงนิคมของชาวโกศล ชื่อว่า นฬก-
ปานะ ทราบมาว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ปลาสวัน ใกล้นฬกปาน-
นิคมนั้น ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้อันหมู่ภิกษุแวดล้อมประทับนั่ง
แล้วในวันอุโบสถ ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงภิกษุทั้งหลาย
ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา สิ้นส่วนแห่ง
ราตรีเป็นอันมาก ทรงตรวจดูภิกษุสงฆ์ผู้นิ่งเงียบอยู่ แล้วตรัสกะท่านพระ-
สารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตร ภิกษุสงฆ์ปราศจากถีนมิทธะแล้ว ธรรมีกถา
เพื่อภิกษุทั้งหลายจงแจ่มแจ้งกะเธอ เราเมื่อยหลัง จักเอนหลัง ท่านพระ-
สารีบุตรกราบทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้
ปูผ้าสังฆาฏิ 4 ชั้น ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์โดยพระปรัสว์เบื้องขวา ซ้อน
เหลื่อมเท้า ทรงมีสติสัมปชัญญะ ทรงกระทำอุฏฐานสัญญาไว้ในพระทัย.
ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเตือนภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุผู้มีอายุ
ทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตร
กล่าวว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่งไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมทั้ง-